วิธีการตั้งราคาขายสินค้าออนไลน์ ฉบับมือใหม่

วิธีการตั้งราคาขายสินค้าออนไลน์ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรอบคอบและมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เพื่อให้ได้กำไรที่ดีและยังสามารถดึงดูดลูกค้าได้ หนึ่งในวิธีที่นิยมคือการตั้งราคาตามต้นทุนของสินค้า (Markup on Cost) ซึ่งเป็นการกำหนดราคาขายโดยเพิ่มเปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการลงไปในต้นทุนของสินค้า ตัวอย่างเช่น หากต้นทุนต่อชิ้นคือ 100 บาท และต้องการกำไร 15% ราคาขายจะเป็น 115 บาท

อีกวิธีหนึ่งคือการตั้งราคาตามราคาขายของสินค้า (Markup on Selling Price) ซึ่งเป็นการคำนวณราคาขายโดยใช้ต้นทุนต่อชิ้นและกำไรที่ต้องการเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาขาย นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงต้นทุนแฝง ซึ่งอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คิดถึงเช่น ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าสต็อกสินค้า การตั้งราคาที่ดีควรสะท้อนถึงคุณค่าของสินค้าและบริการ และต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางการตลาดของธุรกิจ การวิเคราะห์ตลาดและการเปรียบเทียบราคากับคู่แข่งก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การตั้งราคามีความเหมาะสมและสามารถแข่งขันได้

1. การตั้งราคาตามต้นทุน (Markup on Cost)

คือวิธีการกำหนดราคาขายสินค้าโดยใช้เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนเป็นหลัก ค่า Markup นี้จะเพิ่มขึ้นเหนือต้นทุนทั้งหมดเพื่อให้ได้ราคาขายสินค้า โดยผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นกำไรที่คาดหวังจากการขายสินค้านั้นๆ
ตัวอย่างการตั้งราคาตามต้นทุน:

ต้นทุนของสินค้า: สมมติว่าคุณซื้อสินค้ามาในราคา 500 บาทต่อหน่วย

กำหนดเป้าหมายการตั้งราคา: คุณต้องการกำไร 30% จากราคาทุน

คำนวณ Markup: การคำนวณ Markup สามารถทำได้โดยใช้สูตร: Markup = (กำไรที่ต้องการ / ต้นทุน) × 100%

ในที่นี้ กำไรที่ต้องการ = (30/100) × 500 = 150 บาท

Markup = (150 / 500) × 100% = 30%

การตั้งราคาขาย: โดยใช้ Markup ที่คำนวณได้ เราจะได้ราคาขายสินค้าคือ 500 + 150 = 650 บาท

ดังนั้น หากคุณใช้วิธีการตั้งราคาตามต้นทุน (Markup on Cost) ในกรณีนี้ ราคาขายสินค้าจะเป็น 650 บาท โดยที่คุณจะได้กำไร 150 บาท หรือ 30% จากต้นทุนการซื้อสินค้า

2. การตั้งราคาตามราคาขายของสินค้า (Markup on Selling Price)

คือวิธีการกำหนดราคาขายโดยใช้เปอร์เซ็นต์ของราคาขายเป็นตัวบ่งชี้ โดย Markup นี้จะถูกนำไปคำนวณจากราคาขายของสินค้า และจะเพิ่มขึ้นเหนือราคาขายเพื่อให้ได้ราคาทุนที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ

ตัวอย่างการตั้งราคาตามราคาขายของสินค้า: ราคาขายของสินค้า: สมมติว่าคุณตั้งราคาขายสินค้าในราคา 1,000 บาท

กำหนดเป้าหมายการตั้งราคา: คุณต้องการกำไร 20% จากราคาขายของสินค้า

คำนวณ Markup: การคำนวณ Markup สามารถทำได้โดยใช้สูตร: Markup = (กำไรที่ต้องการ / ราคาขาย) × 100%

ในที่นี้ กำไรที่ต้องการ = (20/100) × 1,000 = 200 บาท

Markup = (200 / 1,000) × 100% = 20%

การตั้งราคาทุน: หลังจากคำนวณ Markup เสร็จสิ้น เราสามารถใช้ Markup ที่ได้คำนวณมาเพื่อหาราคาทุนที่เหมาะสม

ในที่นี้ ราคาทุน = 1,000 – 200 = 800 บาท

ดังนั้น หากคุณใช้วิธีการตั้งราคาตามราคาขายของสินค้า (Markup on Selling Price) ในกรณีนี้ คุณจะต้องตั้งราคาทุนของสินค้าในราคา 800 บาท และสามารถตั้งราคาขายสินค้าได้ในราคา 1,000 บาท โดยที่กำไรที่คุณคาดหวังคือ 200 บาท หรือ 20% ของราคาขาย

3. วิธีการตั้งราคาขายสินค้าออนไลน์ ด้วยวิธีการคำนวณราคาสินค้าด้วยการหักลบต้นทุน

วิธีคำนวณ หัก ลบ ต้นทุน:

1.1 คำนวณต้นทุนสินค้า: หากเราต้องการขายเสื้อผ้าแฟชั่น เราต้องคำนวณต้นทุนทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตหรือจัดหาเสื้อผ้า รวมถึง:

ค่าวัสดุ: เช่น ผ้า, ปุ่ม, เส้นด้าย

ค่าแรงงาน: ค่าจ้างแรงงานในการสร้างเสื้อผ้า

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ: เช่น ค่าเช่าโรงงาน, ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า

1.2 กำหนดกำไรที่ต้องการ: กำหนดเป้าหมายกำไรที่ต้องการทำได้จากการขายเสื้อผ้า เช่น 20% ของราคาทุน

1.3 คำนวณราคาขาย: ราคาขาย = ต้นทุน + (ต้นทุน x เปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการ)

ตัวอย่าง วิธีการตั้งราคาขายสินค้าออนไลน์ :

2.1 เสื้อผ้าแฟชั่น:

ต้นทุนสินค้า: 5,000 บาท

กำไรที่ต้องการ: 20% ของราคาทุน = 1,000 บาท

ราคาขาย = 5,000 + 1,000 = 6,000 บาท

2.2 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์:

ต้นทุนสินค้า: 10,000 บาท

กำไรที่ต้องการ: 30% ของราคาทุน = 3,000 บาท

ราคาขาย = 10,000 + 3,000 = 13,000 บาท

การตั้งราคาขายสินค้าออนไลน์ที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและทำกำไรได้หลากหลายดังนี้:

• เพิ่มยอดขาย: การตั้งราคาที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มยอดขายโดยดึงดูดลูกค้ามาใช้สินค้าหรือบริการของคุณ ราคาที่เหมาะสมสามารถทำให้สินค้าของคุณเป็นที่น่าสนใจในตลาดออนไลน์
• สร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า: ราคาที่เหมาะสมจะสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าว่าสินค้าหรือบริการของคุณมีคุณภาพและคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
• เพิ่มกำไร: การตั้งราคาที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว โดยคำนึงถึงต้นทุน, การแข่งขันในตลาด, และความต้องการของลูกค้า
• ควบคุมค่าใช้จ่าย: การตั้งราคาที่เหมาะสมช่วยให้คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและจัดการทรัพยากรที่มีอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
• สร้างยอดขายซ้ำ: การตั้งราคาที่เหมาะสมช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และสามารถสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคงและสนับสนุนธุรกิจของคุณในระยะยาว

ดังนั้น การตั้งราคาขายสินค้าออนไลน์ที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของคุณได้

CREATIV3.CO บริการโปรโมทธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โรงแรม อาหาร ผ่านทาง Google และ Social Media เน้นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ